นาฬิกา รูปภาพ ปฎิทิน


       เวลาประเทศไทย...  
 
 
 

       ปฏิทินวันนี้...  

News online

Radio

REDPLUS  LIVE 1
ผู้กล้าปชต. 90.25 MHz
REDSIAM
SOOMHUAGUN
วิทยุ 3DANG 1
วิทยุแกนนอน
วิทยุม้าเร็ว 1
THAIVOICE 2
ติดต่อเรา way2fight.rs@gmail.com
Blog นี้เข้าได้สองทางนะครับ http://way2fight.blogspot.com และ http://fighttillwin.blogspot.com แต่ละ Blog มีบทความให้อ่านต่างกันครับ แต่นอกนั้นเหมือนกันหมดครับ C box เดียวกันครับ เข้าทางไหนก็คุยกันได้ครับ สำหรับท่านที่ต้องการเข้ามาคุยอย่างเดียวเชิญทางนี้ครับ http://way2fight.cbox.ws/ (ห้องสีชมพู) และ http://winniebetter.cbox.ws/ (ห้องสีฟ้า) สำหรับท่านที่ต้องการอ่านแต่บทความอย่างเดียวเพราะคอมช้า ทำให้เสียเวลาในการโหลดหน้าเวบ ทางทีมงาน Blog ได้รวบรวมบทความทั้งหมดไว้ด้วยกันแล้ว เชิญทางนี้เลยครับ http://way2fightnews.blogspot.com/

way2fight C-Box

ห้องลับสำหรับคุยหลังไมค์

World Clock เวลาทั่วโลก

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คดี 112 : กรณีสุรภักดิ์ ภูไชยแสง(ดอกอ้อริมโขง)

ฟ้องแล้ว! โปรแกรมเมอร์ถูกกล่าวหาสร้างเพจหมิ่นในเฟซบุ๊ก

วานนี้ (28 พ.ย.54) นายอานนท์ นำภา ทนายความของนายสุรภักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) แจ้งว่า สำนักงานพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 อัยการได้ยื่นฟ้องนายสุรภักดิ์แล้วในวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาเป็นเจ้าของอีเมล์ dorkao@hotmail.com ซึ่งจัดทำเพจในเฟซบุ๊กชื่อว่า “เราจะ.......โดยทำรัฐประหาร” และกระทำการโพสต์ข้อความที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3,14,17

คำฟ้องระบุว่า จำเลยทำการโพสต์ข้อความที่เข้าข่ายความผิดดังกล่าวในวันที่ 4 พ.ค.54, 18 มิ.ย.54, 22 มิ.ย.54, 16 ส.ค.54 ในเฟซบุ๊ก และในวันที่ 2 ก.ย.54 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวจำเลยได้พร้อม คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง แอร์การ์ด 1 อัน ซิมการ์ดทรูมูฟ 2 อัน ซิมการร์วันทูคอล 1 อัน แผ่นซีดี บรรจุในกระเป๋าซีดี จำนวน 52 แผ่น โมเดมเร้าเตอร์ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง แผงวงจรไฟฟ้า 1 ตัว จึงได้ยึดเป็นของกลาง ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ ระหว่างสอบสวน จำเลยถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ถูกจับตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

คำฟ้องยังระบุเหตุผลในตอนท้าย เพื่อคัดค้านการขอประกันตัวของจำเลยด้วยว่า “อนึ่ง จำเลยเป็นคนไทย อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อชาติบ้านเมือง และพสกนิกรเป็นล้นพ้น จำเลยนอกจากไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณทรงมีต่อพสกนิกรเสมอมาแล้ว ยังบังอาจแสดงความอาฆาตมาดร้าย มุ่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติที่ประชาชนชาวไทยไม่อาจยอมรับได้ พฤติกรรมของจำเลยไม่มีเหตุอันควรปราณี ไม่ว่าในทางใด สมควรได้รับโทษสถานหนัก จำเลยกระทำผิดร้ายแรง อันป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หากจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราว อาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อภัยในลักษณะดังกล่าวขึ้นมาอีก หากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราว โจทก์ขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สุรภักดิ์ วัย 40 ปี เป็นโปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาซอฟท์แวร์ให้กับบริษัทเอกชน รัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เพิ่งเปิดบริษัทใหม่ได้ไม่ถึงเดือน ก่อนจะถูกจับกุม กำลังพัฒนาโปรแกรม ERP (Enterprise resource planning) ให้กับบริษัทเอกชน 2 แห่ง ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท พัฒนาไปกว่า 40% แล้วและยังค้างอยู่

เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมาทางเทคโนโลยี (ปอท.) นับสิบนายบุกเข้าจับกุม ซึ่งตามข่าวระบุว่าเป็นวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา และในการตรวจค้นและยึดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 เครื่อง และคอมพิวเตอร์แบบพกพาอีก 1 เครื่องนั้น สุรภักดิ์พยายามติดต่อพยานเพื่อมาดูและกระบวนการดังกล่าว รวมทั้งขอติดต่อทนายความ แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธและยึดโทรศัพท์มือถือไป กระทั่งนำตัวมาสอบสวนที่ ปอท. จึงได้พบทนายความ

เขาระบุอีกว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีหลักฐานอย่างชัดเจนในการกล่าวหาเขาแต่อย่างใด เพียงแต่ระบุว่า มีนักศึกษาไปร้องทุกข์กล่าวโทษเกี่ยวกับเพจนี้ แล้วจากนั้นก็มีพยานอีก 1 คนที่ระบุเชื่อมโยงตัวเขาเข้ากับเพจดังกล่าว

จาก http://www.prachatai.com/journal/2011/11/38071


รายละเอียด :



จับ “เฟคบุ๊ค” เหยื่อ 112 : เขาละเมิดสิทธิผมตั้งแต่ชั้นจับกุม…
เหมือนยิ่งห้ามยิ่งยุ นี่เป็นรายที่ 2 ในรอบหนึ่งเดือนที่มีการบุกจับกุมผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ…

เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าพนักงานชุดจับกุมของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในชุดนอกเครื่องแบบประมาณ 10 คน ได้บุกเข้าจับกุมนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง วัย 40 ปี โปรแกรมเมอร์อิสระ ชาวจังหวัดบึงกาฬ ณ อาพาร์ตเม้นท์ ในซอยมหาดไทย (ลาดพร้าว 122) โดยได้กล่าวหาว่ากระทำความตามพระราชบัญญัิติว่าด้วยการกระทำความผิดอันเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งในระหว่างจับกุมได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์แบบพกพา , คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แอร์การ์ด รวมทั้งแผ่นซีดีไปด้วย ทั้งนี้ ในระหว่างเข้าจับกุมพนักงานเจ้าหน้าที่มิได้ให้โอกาสผู้ต้องหาติดต่อกับทนายความ หรือผู้ที่ผู้ต้องหาไว้วางใจแต่อย่างใด

“พอผมกลับจากทำธุรข้างนอกเค้าก็กรูเข้ามาล็อกตัวผมทันที พูดจาข่มขู่สารพัด แต่ละคนตัวโตๆทั้งนั้น มีบางคนเข้าไปค้นและรื้อยึดคอมผมไปทั้งโน้ตบุ๊ค และ PC พวก ซีดีโปรแกรม และแอร์การ์ดที่ผมใช้ทำงานก็เอาไป เขาแจ้งข้อหาผม หาว่าผมเป็นคนสร้างเพจ เราจะครองแผ่นดินโดย… ในเฟคบุ๊ค ซึ่งผมก้ปฏิเสธว่าผมไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอม และยังบอกว่าผมใช้ชื่อว่า “ดอกอ้อ” และกล่าวหาว่าผมไปเกี่ยวข้องกับเว็ปไซต์ นปช.ยูเอสเอ ผมยืนยันว่าผมไม่รู้เรื่อง แต่เขาบังคับให้ผมลงชื่อรับสารภาพ ผมจะโทร.หาทนายความก็แย้งโทรศัพท์มือถือจากผม ผมกลังเลยลงชื่อไป เจ้าหน้าที่บังคับให้ผมบอกระหัสเปิดคอมพิวเตอร์ ผมกลัวจึงบอกเค้าไป แล้วเขาก็พาผมมาที่ดีเอสไอ จึงได้ติดต่อกับทนายความ ดีที่ได้ทนายจากทีมคุณคารม พรรคเพื่อไทย ที่มาช่วยกัน ผมจึงมีโอกาสให้การปฏิเสธ”

ภายหลังได้ทราบจากญาติที่เดินทางมาเยี่ยมจาก จ.บึงกาฬ ว่า ทางญาติได้ประสานขอความช่วยเหลือจากทางพรรคเพื่อไทย โดย ส.ส.พรรคเพื่อไทยของจังหวัดบึงกาฬ จะใช้ตำแหน่งเข้ายื่นประกันตัวในวันพรุ่งนี้

“ผมขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เป็นห่วง ผมสบายดี และขอบคุณทีมทนายคุณคารม รวมทั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่กรุณายื่นมือมาช่วยผม”

นี่เป็นการจับกุมผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เกี่ยวข้องกับ พรบ.คอมพิวเตอร์เป็นรายที่ 2 ถัดจากคดีนิสิต ม.เกษตรศาสตร์ ในกระแสที่สังคมกำลังเผชิญคลื่นความหลากหลายทางความคิด… ในกระแสที่ ม.112 กำลังถูกนำมาใช้จัดการกับผู้เห็นต่าง… พอเสียที

ที่มา สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น